หากพบว่าผมร่วงหลังคลอดประการแรกคือสงบสติอารมณ์และทำความเข้าใจว่านี่เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับร้อยละ 50 ของผู้หญิงหลังคลอด เราได้รวบรวมวิธีรักษาตามธรรมชาติที่จะช่วยหยุดอาการผมร่วงหลังคลอดมาให้อ่านกันค่ะ
ผมร่วงหลังคลอด
ระหว่างตั้งครรภ์ ผมของคุณหยุดร่วงไปชั่วคราวเนื่องมาจากระดับฮอร์โมนที่ขึ้นสูงในร่างกายของคุณ เพราะเหตุนี้เองคุณอาจสังเกตเห็นว่าผมดกหนาเป็นเงางามขึ้นในช่วงตั้งครรภ์
หลังคลอดเจ้าตัวน้อยแล้ว ฮอร์โมนจะกลับสู่ระดับปกติอย่างที่เคยเป็นตอนก่อนตั้งครรภ์ซึ่งจะทำให้ผมที่หยุดร่วงชั่วคราวมาร่วงพร้อมกันตอนนี้ คุณอาจรู้สึกตกใจเมื่อได้เห็น แต่ความจริงแล้วผมเหล่านี้คือส่วนที่ควรจะร่วงไปในช่วงที่คุณตั้งครรภ์ ผมร่วงหลังคลอดเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราวและผมของคุณจะกลับมาดกหนาดังเดิมในราว 1 ปีค่ะ

6 วิธีหยุดผมร่วงหลังคลอด
6 วิธีหยุดผมร่วงหลังคลอด
อาการผมร่วงหลังคลอดมีวิธีรักษาตามธรรมชาติอยู่หลายวิธีที่จะช่วยลดเส้นผมหลุดร่วงทั้งระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด รวมทั้งเร่งให้ผมกลับมาดกหนาดังเดิมด้วย
1. วิตามิน วิตามินบี ซี อี สังกะสีและซีลีเนียมล้วนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว ผมและเล็บ จึงควรทานวิตามินต่อหลังคลอด ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ขอแนะนำว่าควรเปลี่ยนไปทานวิตามินเสริมสำหรับคุณแม่หลังคลอดซึ่งจะช่วยให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายในระยะนี้โดยเฉพาะ
2. ไบโอติน ไบโอตินอยู่ในตระกูลวิตามินบีและมีความสำคัญต่อเส้นผมเป็นพิเศษเนื่องจากช่วยให้ร่างกายสร้างโปรตีนต่างๆ อย่างเคราติน การขาดไบโอตินเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วง ผมขาดง่ายและเล็บเปราะ หากต้องการเพิ่มปริมาณไบโอตินให้แก่ร่างกาย ควรทานไบโอตินเสริมวันละ 5 มิลลิกรัมควบคู่ไปกับการทานอาหารตามปกติ นอกจากนี้ก็อาจจะลองใช้แชมพูและครีมนวดผมที่มีไบโอตินสูง แต่วิธีนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าได้ผลจริง
3. ยีสต์ เคยได้ยินไหมคะว่าใช้เบีย์สระผมจะช่วยให้ผมแข็งแรงเงางาม เรื่องนี้มีมูลความจริงเพราะเบียร์ทำจากยีสต์ซึ่งมีไบโอติน กรดโฟลิกและไรโบฟลาวิน นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องใช้เบียร์สิงห์หมักผมทั้งวันนะคะ ลองวิธีใช้ยีสต์หมักเบียร์ทำมาส์กพอกผมด้วยตนเองดู
4.สมุนไพรเหอโส่ววู (He Shou Wu) สมุนไพรชนิดหนึ่งที่ควรรวมไว้ในตำรับอาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอดคือเหอโส่ววู เหอโส่ววูมีสรรพคุณรักษาการอักเสบ อุดมด้วยสังกะสีและขึ้นชื่อว่ามีประโยชน์ต่อเส้นผม หลายคนอ้างว่าสมุนไพรตัวนี้สามารถทำให้ผมหงอกขาวกลับมาเป็นสีดำได้อีก หากคุณแม่ทานเหอโส่ววูช่วงพักฟื้นหลังคลอด ก็จะช่วยลดผมร่วงและเร่งให้ผมดกหนาสุขภาพดีดังเดิม
5. กรดไขมันที่จำเป็น คุณแม่หลังคลอดควรพยายามทานปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ให้มากๆ หรือเลือกทานโอเมก้า 3-6-9 จากเมล็ดแฟล็กซ์หรือน้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมเนื่องจากกรดไขมันที่จำเป็นเหล่านี้ไม่เพียงมีประโยชน์ต่อคอเลสเตอรอล แต่ยังช่วยให้เส้นผมของคุณแข็งแรงเงางามด้วย
6. ตัดผม คุณอาจเคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่หรือช่างทำผมแนะให้ตัดผมสั้นก่อนคลอด สาเหตุก็เพราะผมสั้นต้องการสารอาหารน้อยกว่าและอาจจะร่วงน้อยกว่าผมยาว ผลพลอยได้จากการตัดผมสั้นคือคุณจะไม่ค่อยมีปัญหาผมแตกปลายหรือผมพันกัน ทั้งยังประหยัดเวลาในการดูแลรักษาอีกด้วย
แต่คุณๆไม่จำเป็นต้องตัดผมสั้นอีกค่อไปแล้ว เมื่อคุณกินวิตามินตัวนี้ วิตามินนำเข้าจากอเมริกาของแท้ ปลอดภัยBy Cherrynatshop LINE:0815446181
วิตามินบำรุงผมดกหนา ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้นอย่างน่าอิจฉา เล็บแข็งแรงสวยไม่เป็นลายดอก ให้คุณได้ผล100%
เนเจอร์ เบาวน์ตี้, ออฟติมอล โซลูชั่นส์ เอ็กซ์ตร้า สเต็นท์ แฮร์ สกิน แอนด์ เนลส์ (Nature's Bounty, Optimal Solutions Extra Strength Hair, Skin and Nails)
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ประกอบด้วย ไบโอติน (Biotin) ขนาด 5,000 ไมโครกรัมต่อหน่วยบริโภค และอุดมด้วยวิตามิน เอ, วิตามิน บี 1 บี 2 บี 6 บี 12, วิตามิน ซี,
วิตามิน ดี, วิตามิน อี ถึง ซิงส์ (Zinc) สูตร แฮร์ สกิน แอนด์ เนลส์ ของ เนเจอร์ เบาวน์ตี้, ออฟติมอล โซลูชั่นส์ เอ็กซ์ตร้า สเต็นท์ ให้ความพิเศษที่คุณต้องการสำหรับ ผมเงางาม (Lustrous Hair) ผิวที่น่าอิจฉา (Vibrant Skin) และเล็บที่แข็งแรง (Strong Nails) เพื่อสุขภาพที่ดีสวยงามเสมอ!
หมายเหตุ : ไบโอติน ทำงานเสริมกับ วิตามิน บี 2 บี 6 (Vitamin B2, B6) ไนอะซิน (Niacin) และวิตามิน เอ (Vitamin A) ช่วยในการรักษาสุขภาพผิวพรรณ
นอกจากนั้นยังมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างครบวงจร เช่น
Argan Oil - น้ำมันอาร์แกนได้จากการสกัดเมล็ดที่อยู่ในผลของอาร์แกน เป็นน้ำมันที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด มีกรดไขมันจำเป็นหลายชนิด รวมถึง Linoleic acid หรือ Omega-6 ที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์ผิวที่มีสุขภาพดี รักษาความยืดหยุ่นของผิว ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น ชะลอการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ น้ำมันอาร์แกนยังมีสาร Anti-Ageing คือ gamma-Tocopherols ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติอยู่ในปริมาณที่มาก สารเหล่านี้ช่วยป้องกันการเกิด Lipid Oxidation ที่เป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว และสาร Triterpenic Alcohols ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบ
PABA - พาบา หรือ กรดพารา-อะมิโนเบนโซอิก (Para-Aminobenoic Acid) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของ วิตามินบีรวม ป้องกันผมหงอก จะส่งผลให้ผมที่ขาวกลับมาดกดำใหม่อีกครั้ง และช่วยฟื้นคืนสีผมตามธรรมชาติให้กับเส้นผม อีกทั้งช่วยให้ผิวแลดูมีสุขภาพดีและเนียนนุ่ม ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
Choline Bitartrate - เป็นสารอาหารในกลุ่มวิตามินบี ที่ช่วยในขบวนการเผาผลาญไขมัน โดยมีคุณสมบัติเป็นอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ให้ผลในการกระจายไขมันที่เกาะตัวอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้แตกตัวเป็นกรดไขมันขนาดเล็ก ซึ่งง่ายในการเข้าสู่ไมโตรคอนเดรียแหล่งพลังงานในเซลล์ เพื่อนำไปเผาผลาญให้เป็นพลังงานต่อไป
Alpha Lipoic Acid - เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สามารถทำงานได้ภายในเซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ช่วยทำความสะอาดและทำให้ผิวบริสุทธิ์ โดยการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ขจัดสารพิษในตับ, ป้องกันการสูญเสียคอลลาเจน (Collagen) จากการทำลายของสารอนุมูลอิสระและแสงแดด, ช่วยรักษาการอักเสบไม่ให้สิวนั้นอักเสบลุกลามมากไป อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี โคคิวเทน กลูต้าไธโอน ให้กลับมาใช้งานซ้ำได้ ยับยั้งการเกิดและปรับเม็ดสีเมลานิน จึงช่วยลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ได้เป็นอย่างดี และเติมเต็มคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิว
Horsetail - สารสกัดจาก หญ้าหางม้า มีปริมาณของซิลิกา (Silica) มากกว่า สมุนไพรอื่น ๆ มีประโยชน์ในด้านกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมทั้งยังส่งเสริมในด้านการทำงานของเซลล์ให้มีประสิทธิภาพที่ดี ส่งเสริมในสร้างความแข็งแรงของเส้นผม เหมาะกับผู้ที่ผมร่วงหรือต้องการจะปลูกผม
Hydrolyzed Collagen - เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการผลิตคุณภาพสูงด้วยระบบนาโนเทคโนโลยี เมื่อรับประทานเแล้วสามารถดูดซึมได้ง่าย เสริมสร้างและชะลอการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนในผิวหนัง
Hyaluronic Acid - เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย มีประโยชน์ที่สำคัญคือ จะช่วยให้ผิวหนังสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้มากกว่าปรกติหลายเท่าตัว เซลล์ผิวมีความชุ่มชื่นที่ดีเพียงพอ ผิวหน้าก็จะดูอ่อนกว่าเยาว์ เนียนเรียบขึ้น ริ้วรอยลดลง มีความยืดหยุ่น นุ่มนวล และดูมีชีวิตชีวา
คุณสมบัติ
ช่วยรักษาสุขภาพเส้นผม ป้องกันผมหงอก ผมร่วง และรากผมอ่อนแอ
ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส และสดใสดูอ่อนกว่าเยาว์
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเล็บที่แข็งแรง ช่วยป้องกันและรักษาเล็บแห้งเปราะ
ช่วยบรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผื่นคัน
ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ข้อแนะนำการใช้
อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค
สำหรับผู้ใหญ่ : รับประทานพร้อมอาหาร วันละ 3 ซอฟต์เจล ทุกวัน หรือ ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
บทความวิชาการ : ไบโอติน (Biotin) ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ไบไอติน (Biotin) หรือวิตามิน เอช (Vitamin H) เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับวิตามิน บี (Vitamin B) ผลึกของไบโอตินเป็นรูปเข็มยาว
ในธรรมชาติมักเกิดรวมอยู่กับกรดอะมิโนไลซีน ไบโอตินเป็นสารจำเป็นในการเติบโตของยีสต์และจุลอินทรีย์หลายชนิด
ผลของการขาดวิตามินไบโอติน (The symptom of defficiency)
เกิดความบกพร่องของระบบผิวพรรณ เช่น มีอาการผิวแห้ง (Dry Skin) เป็นผื่นคัน โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา จมูก ปาก และ บริเวณอวัยวะเพศ ผิวคล้ำและเป็นจ้ำ
การรับสัมผัสทางผิวพรรณผิดปกติ (Sensitivity to touch) อาการผมร่วง (Hair Loss)
ระบบการเผาผลาญไขมันเกิดความบกพร่อง ส่งผลให้ไขมัน โคเลสเตอรอลในเลือดสูง (Increase in cholesterol) และการเผาผลาญไขมันน้อยลง
หมดเรี่ยวแรง (Fatigue) และอาจมีอาการของการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ (Muscle Pain)
มีอาการคลื่นไส้อาเจียน (Nausea) หรือความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร (Loss of Appetite)
มีอาการทางระบบประสาท เช่น อาการนอนไม่หลับ (Insomnia) ภาวะซึมเศร้า (Depression) ประสาทหลอน (Hallucination)
กลไกการทำงานของวิตามินไบโอตินในร่างกาย (Mechanism of Action in our Body)
หน้าที่หลักของวิตามิน ไบโอติน (Biotin) ในร่างกายของเรา คือ การทำหน้าที่เป็นตัวร่วมเร่งปฏิกิริยาทางชีวเคมีหรือที่เราเรียกว่า
โคเอ็นไซม์ (Co-enzyme) ในปฏิกิริยาต่างๆ ซึ่ง ได้แก่
เป็น โคเอ็นไซม์ (Co-enzyme) ในขบวนการเผาผลาญไขมัน (Fat Metabolism) ช่วยให้ร่างกายสามารถนำไขมันมาใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น และนำไขมันมาสร้างเป็นกรดไขมัน (Fatty Acids) ที่เป็นสารตั้งต้นของสารสำคัญในร่างกายอื่นๆ ได้ดีขึ้น
เป็น โคเอ็นไซม์ (Co-enzyme) ในกระบวนการสร้างสาร ไพริมิดีน (Pyrimidine) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่ร่างกายนำไปใช้สร้างกรดนิวคลีอิค (Nucleic Acid) หรือ ดีเอ็นเอ (DNA) และ อาร์เอ็นเอ (RNA) ซึ่งเป็นสารทางพันธุกรรมต่อไป
จากกลไกการทำงานของไบโอตินทำให้ทราบว่า ในขบวนการแบ่งเซลล์ หรือเพิ่มจำนวนเซลล์ มีความจำเป็นที่เซลล์ใหม่จะต้องมีสารพันธุกรรม ดีเอ็นเอ (DNA) และอาร์เอ็นเอ (RNA) เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่านั้น จำเป็นที่จะต้องใช้วิตามินไบโอติน ในการสร้างสารตั้งต้นเสมอ ดังนั้นหากขาดวิตามิน ไบโอติน ดังกล่าว ย่อมทำให้ขบวนการในการสร้างเซลล์ใหม่เกิดภาวะบกพร่องได้ ตัวอย่าง อวัยวะที่ต้องสร้างเซลล์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา คือ เซลล์ผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ ยิ่งจะปรากฎภาวะความบกพร่องได้ง่ายและชัดเจนขึ้น เช่น อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วง (Hair Loss) ภาวะผิวหนังอักเสบ (Dermatitis) ฯลฯ
ความปลอดภัยในการใช้
ไบโอตินมีความปลอดภัยในการใช้ค่อนข้างสูง พบว่าสามารถรับประทานไบโอตินได้มากถึงวันละ 200 มิลลิกรัม ในคนที่ขาดไบโอติน ส่วนในคนปกติพบว่าการรับประทานไบโอตินวันละ 5 มิลลิกรัมเป็นเวลา 2 ปี ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ
Review จากลูกค้าร้านCherrynatshop
รู้สึกดีค่ะ Review by อ้อม 28 พย 2557
ทานแล้วรู้สึกว่าผมร่วงน้อยลง เล็บแข็งแรง..แคปซูลจะมีกลิ่นยานิดๆ ลองทานมาจะหมด 1 กระปุกแล้วรู้สึกเห็นผลดีค่ะ
คลิกแวะรายละเอียดในเว็บwww.cherrynatshop.comที่นี่ค่ะ
http://www.cherrynatshop.com/product-th-1084708-วิตามินจากอเมริกาบำรุงผมดกลดผมร่วง+หยุดผมบาง.html
LINE:0815446181 สั่งซื้อเลยค่ะ